เส้นทางแห่งความทรงจำ: 48 ชั่วโมงที่ขอนแก่น

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินขอนแก่น ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายที่ส่องผ่านหน้าต่างกระจก ความรู้สึกตื่นเต้นผสมปนเปกับความคาดหวัง เพราะรู้ดีว่าทริปนี้จะไม่เหมือนใครเพราะเราเลือกที่จะทำให้ตนเองเป็นผู้โดยสารที่ได้รับการดูแลอย่างดี
บทแรก: การพบกันครั้งแรก
เมื่อก้าวออกจากท่าอากาศยาน สายตาหาคนขับจาก SP SMART VAN ไม่นาน ก็เจอป้ายชื่อของเราในมือของชายวัยกลางคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายอย่างสุภาพ แนะนำตัวเป็นคนขับที่จะดูแลเราตลอดทริป
รถ Toyota Vellfire สีดำเงางาม จอดรออย่างภาคภูมิ เมื่อประตูเปิดออก ภายในคือห้องโถงเคลื่อนที่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เบาะหนังนุ่มนิ่ม ระบบแอร์ที่เย็นสบาย และที่สำคัญคือพื้นที่ส่วนตัวที่เราต้องการสำหรับการเดินทางครั้งนี้
บทที่สอง: ผู้คนและสถานที่
โรงแรม Adlib Khon Kaen ต้อนรับเราด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ผสานเอาความเป็นอีสานเข้ากับความโมเดิร์น วิวจากห้องพักมองเห็นเมืองขอนแก่นที่กำลังเปลี่ยนแปลง สูงตึกใหม่ๆ ตั้งตระหง่านท่ามกลางต้นไผ่และต้นโพธิ์เก่าแก่
เมื่อแสงแดดเริ่มลดลง เราออกเดินทางสำรวจเมือง การเริ่มต้นที่ ศาลหลักเมืองขอนแก่น เป็นการแสดงความเคารพต่อประเพณี คนท้องถิ่นมาไหว้ขอพรกันอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศเงียบสงบแต่เต็มไปด้วยศรัทธา
จากนั้นเดินทางสู่ บึงแก่นนคร ผืนน้ำกว้างใหญ่ใจกลางเมือง เสียงคลื่นเบาๆ สายลมเย็น และผู้คนที่มาออกกำลังกาย เดินเล่น หรือนั่งพูดคุยกัน ที่นี่เป็นพื้นที่แห่งการผ่อนคลาย ที่เวลาดูเหมือนหยุดนิ่ง
บทที่สาม: รสชาติแห่งความทรงจำ
เมื่อความหิวโหยเริ่มมาเยือน เราเดินทางสู่ “พ่อสนั่น ลาบ ก้อย” ร้านที่มีประวัติศาสตร์กว่า 30 ปี เจ้าของร้านที่มีอายุ 70 กว่าปี ยังคงประกอบอาหารด้วยตนเอง สายตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในฝีมือ
เมนูเด็ด “ก้อยเสือคั่ว” ถูกนำเสนอมาพร้อมกับความรู้สึกที่ลึกซึ้ง รสชาติของเนื้อที่คั่วมาดี เครื่องเทศที่กลมกล่อม และความแซ่บที่ยาวนาน มันคือการบอกเล่าเรื่องราวของอีสานผ่านการรับประทาน
ค่ำคืนนั้นปิดท้ายด้วยการนั่งจิบนมสดที่ “ศรีจันทร์ นมสด” นมวัวแท้ที่มีรสชาติกลมกล่อม ท่ามกลางบรรยากาศเมืองขอนแก่นยามค่ำคืน ไฟฟ้าเริ่มจุดขึ้น ผู้คนเดินสวนสนทนา เสียงหัวเราะแว่วมา
บทที่สี่: วันใหม่แห่งการค้นพบ
เช้าตรู่ของวันที่สอง เราออกเดินทางสู่ สวนสุนันทา สถานที่ที่ห่างจากความวุ่นวายของเมือง การเดินทางใช้เวลา 20 นาที ผ่านสองข้างทางที่เป็นทุ่งนาและป่าไผ่เขียวขจี
เมื่อถึงจุดหมาย ความเงียบสงบและร่มเงาของต้นไทรใหญ่ต้อนรับเรา รูปปั้นพญานาคที่งดงาม พระพุทธรูปที่ประทับนั่งอย่างสงบ และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้จิตใจสงบเป็นกบิลเสาร์
มื้อกลางวันที่ “นอนนาคาเฟ่” เป็นประสบการณ์ที่แตกต่าง คาเฟ่ท่ามกลางทุ่งนาที่เขียวขจี สายลมพัดเบาๆ เสียงใสของเด็กๆ ที่เล่นอยู่ไกลๆ อาหารมีรสชาติเรียบง่าย แต่จริงใจ ราคาที่เป็นธรรม และความอบอุ่นจากเจ้าของร้าน
บทที่ห้า: ศิลปะและศรัทธา
บ่ายวันนั้น เราเดินทางสู่ วัดทุ่งเศรษฐี วัดที่มีสถาปัตยกรรมไม่เหมือนใคร การผสมผสานระหว่างศิลปะไทย จีน อินเดีย และตะวันตก มหาเจดีย์ที่สูงตระหง่าน ล้อมรอบด้วยผืนน้ำและสะพานไม้ สะท้อนแนวคิดเรื่องการเชื่อมโลกทั้งสาม
การแวะ อนุสรณ์สถาน หลวงพ่อคูณ ระหว่างทาง เป็นช่วงเวลาแห่งการไตร่ตรอง ความเงียบและความศรัทธาของผู้คนที่มาไหว้ ทำให้รู้สึกถึงพลังของความเชื่อ
บทที่หก: กลับสู่จุดเริ่มต้น
กลับเข้าสู่เมืองอีกครั้ง วัดหนองแวง ต้อนรับเราด้วยพระมหาธาตุแก่นนคร 9 ชั้น ที่สูงเสียดฟ้า วัดเก่าแก่กว่า 200 ปี ที่ยังคงความงดงามและความศักดิ์สิทธิ์
The Walk ขอนแก่น เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศอย่างสิ้นเชิง พื้นที่สร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยสีสัน งานศิลปะบนกำแพง ร้านอาหารเล็กๆ และเสียงหัวเราะของเยาวชน ที่นี่คือจุดที่อดีตและปัจจุบันมาพบกัน
สุดท้าย การนั่งจิบกาแฟที่ Refill Coffee และ Roast8ry เป็นการปิดท้ายที่สมบูรณ์ แบบ รสชาติของกาแฟที่หอมกรุ่น บรรยากาศที่อบอุ่น และการสนทนากับคนท้องถิ่นที่เป็นมิตร
บทสุดท้าย: การเดินทางกลับ
เมื่อรถมาส่งที่สนามบิน ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์เริ่มคืบคลาน ขอนแก่นให้ประสบการณ์ที่มากกว่าการท่องเที่ยว มันคือการได้เรียนรู้ การได้สัมผัสความเป็นอีสานที่แท้จริง และการได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
คนขับที่ดูแลเราตลอดทาง ไม่เพียงแต่เป็นผู้ขับรถ แต่ยังเป็นผู้นำทาง เป็นผู้ให้คำแนะนำ และเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่ดี บริการของ SP SMART VAN ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่เป็นการดูแลเราให้รู้สึกปลอดภัย สะดวกสบาย และได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ขอนแก่น 2 วัน 1 คืน อาจจะสั้น แต่เต็มไปด้วยความหมาย เป็นการเดินทางที่จะติดอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน และเป็นแรงบันดาลใจให้กลับมาเยือนอีกครั้งในอนาคต
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Pantip ค่ะ https://pantip.com/topic/43494688